ความสัมพันธ์ญาติ: เสืออากาศตระกูลริชโธเฟ่นในสงครามโลกครั้งที่ 1
ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง มีนักบินชาวเยอรมันจากตระกูลริชโธเฟนที่ได้เป็นเสืออากาศหรือเอส (สามารถยิงเครื่องบินศัตรูตกได้เกินห้าลำ) ถึงสามคน ในภาพยนตร์ 'เดอะ เรด บารอน สมรภูมิรบ รัก วีรบุรุษ' เมื่อปี 2008 ก็บอกเพียงว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ทำให้ จขบ. สงสัยจนต้องไปค้นคว้าหาข้อมูลเอง
แมนเฟรด - โลธาร์ - โวลแฟรม
ร้อยเอก แมนเฟรด ฟอน ริชโธเฟน (Manfred Albrecht Freiherr von Richthofen) เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 1892 ที่เบรสเลา (ปัจจุบันอยู่ในโปแลนด์) เข้าเป็นทหารม้าในปี 1911 เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ก็ย้ายไปหน่วยทหารอากาศและสอบผ่านเป็นนักบินในปี 1915
แมนเฟรดยิงเครื่องบินข้าศึกตกครั้งแรกในเดือนกันยายน 1916 ผลงานชิ้นสำคัญชิ้นแรกคือการยิงเครื่องบินของพันตรีฮอว์คเกอร์ (Hawker) นักบินอังกฤษที่ได้รับเหรียญกล้าหาญขั้นสูงสุด ตกในเดือนพฤศจิกายน 1916 เมื่อแมนเฟรดยิงเครื่องบินศัตรูตกครบ 16 ลำ ก็ได้รับเหรียญกล้าหาญขั้นสูงสุด เป็นผู้นำฝูงที่ 11 ทาสีเครื่องบินเป็นสีแดงเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวจนได้รับฉายาว่าบารอนแดง
แมนเฟรด ฟอน ริชโธเฟน เสียชีวิตในวันที่ 21 เมษายน 1918 เมื่ออายุ 25 ปี ในสนามรบที่ซอมม์ระหว่างการรบทางอากาศกับ ร้อยเอกรอย บราวน์ (Roy Brown) นักบินชาวแคนาดา โดยมีข้อกังขาว่าใครสมควรได้เครดิต นักบินหรือพลปืนภาคพื้นดิน รวมทั้งหมด ยิงเครื่องบินฝ่ายศัตรูตกอย่างเป็นทางการ 80 ลำ เป็นสถิติสูงสุดในสงครามโลกครั้งที่ 1
น้องชายของแมนเฟรด ร้อยโท โลธาร์ ฟอน ริชโธเฟน (Lothar Siegfried Freiherr von Richthofen) ก็เป็นเสืออากาศขึ้นชื่อ เกิดเมื่อ 27 กันยายน 1894 เดิมเป็นทหารม้า สมัครเข้าหน่วยทหารอากาศในฐานะลูกเรือในปี 1915 ได้เป็นนักบินในเดือนมีนาคม 1917 และเข้าร่วมในฝูงบินของพี่ชาย และเป็นหัวหน้าแทนเมื่อพี่ไม่อยู่
โลธาร์ได้รับเหรียญ Pour le Mérite ในเดือนพฤษภาคม 1917 เมื่อยิงเครื่องบินศัตรูตกครบ 24 ลำ โลธาร์ได้รับบาดเจ็บในการรบทางอากาศอย่างน้อย 3 ครั้ง ยิงเครื่องบินฝ่ายศัตรูตก 40 ลำ เป็นสถิติลำดับที่ 12 ของเยอรมัน และติดใน 30 ลำดับสูงสุดของสงครามโลกครั้งที่ 1 และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกหลังสงครามเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 1922 อายุ 27 ปี
จอมพล โวลแฟรม ฟอน ริชโธเฟน (Wolfram Karl Ludwig Moritz Hermann Freiherr von Richthofen) เกิดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 1895 ใกล้ชเตรเกา (ปัจจุบันอยู่ในโปแลนด์) และเป็นผู้รับมรดกของลุงในฐานะบุตรบุญธรรม
โวลแฟรมสมัครเข้าเป็นทหารม้าในปี 1913 เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ประจำที่แนวตะวันตก ก่อนย้ายไปโปแลนด์จนได้เป็นผู้บัญชาการกองร้อยทหารม้า และเข้าหน่วยทหารอากาศเมื่อปี 1917 เข้าร่วมรบในฝูงบินของแมนเฟรดเมื่อปี 1918 รวมยิงเครื่องบินศัตรูตก 8 ลำ ซึ่งอาจจะดูน้อยกว่ามาก แต่โวลแฟรมเริ่มบินช้ากว่าเช่นกัน
หลังสงคราม โวลแฟรมศึกษาด้านวิศวกรรมการบิน กลับเข้ากองทัพบกในปี 1922 เข้าร่วมกองทัพอากาศเยอรมันในปี 1933 มีผลงานในการจัดหาและพัฒนาเครื่องบินรบ ย้ายไปทำงานสนามในสงครามกลางเมืองสเปนจนได้เป็นเสนาธิการ พัฒนาแนวคิดและการดำเนินงานที่กลายเป็นมาตรฐานของกองทัพอากาศหลายเรื่อง
ในสงครามโลกครั้งที่สอง โวลแฟรมมีส่วนร่วมในการบุกโปแลนด์ สนับสนุนการบุกเบลเยียม เนเธอร์แลนด์ และฝรั่งเศส ตามด้วยอังกฤษ บอลข่าน โซเวียต และอิตาลี ได้ยศจอมพล Generalfeldmarschall เมื่อปี 1943 โวลแฟรมป่วยเป็นเนื้องอกในสมองและเสียชีวิตในวันที่ 12 กรกฎาคม 1945 เมื่ออายุ 49 ปี ที่ออสเตรีย
ขอธิบายเพิ่มว่าในชื่อของทั้งสามคนที่ลงท้ายด้วย Freiherr von Richthofen คำว่า Freiherr (frei คืออิสระ ส่วน herr สมัยนี้คือคำนำหน้าชื่อผู้ชายทั่วไป แต่สมัยก่อนเป็นคำยกย่องคล้ายท่านลอร์ด) เป็นตำแหน่งของผู้มีตระกูลทางบิดาในระบบเยอรมัน ที่ทายาทชายใช้กันทุกคน ทายาทหญิงจะใช้ Freiin และหญิงที่แต่งเข้าตระกูลก็ใช้ Freifrau แต่เวลาแปล Freiherr เป็นอังกฤษมักชอบใช้บรรดาศักดิ์บารอน ทั้งที่บารนเป็นบรรดาศักดิ์ขุนนางที่มีการสิบตำแหน่งโดยลูกชายคนโตในแต่ละรุ่น ไม่ได้ส่งต่อให้ทายาทชายทุกคนแบบนี้
ด้วยความสงสัยติดใจเรื่องความสัมพันธ์ที่แน่นอน เลยได้ลองค้นดูจากอินเตอร์เน็ตหลายแหล่ง เช่น geni WikiTree GEDBAS Geneanet (ถือว่าโชคดีที่เคยเรียนภาษาเยอรมันมาบ้าง สามารถช่วยเดาได้อย่างมีหลักมากขึ้น) รวบรวมออกมาแผนภาพด้านล่างที่ก็มีความแตกต่างในรายละเอียดของแหล่ง เช่นการสะกดชื่อ ตำแหน่งชื่อ หรือปี แต่ก็ไม่มากนัก หากมีคำแนะนำแก้ไขหรือข้อมูลเพิ่ม จะขอบคุณมากค่ะ
สรุปได้ว่าโวลแฟรมและแมนเฟรด/โลธาร์มีปู่ย่าของทวดเป็นคู่เดียวกัน หรือที่ในภาษาอังกฤษเรียกว่าลูกพี่ลูกน้องขั้นที่สี่ (fourth cousin) โดยบรรพบุรุษของโวลแฟรมเป็นพี่ของแมนเฟรด/โลธาร์ และอาจจะมีความเกี่ยวเนื่องอื่นด้วยค่ะ
ที่มา
[1] Manfred von Richthofen. The Red Baron (Der Rote Kampfflieger). Pen & Sword Military Classics, 192 pages, 2005 (First Published in 1917, First Translated in 1918).
ความสัมพันธ์ญาติ
แมนเฟรด - โลธาร์ - โวลแฟรม
ร้อยเอก แมนเฟรด ฟอน ริชโธเฟน (Manfred Albrecht Freiherr von Richthofen) เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 1892 ที่เบรสเลา (ปัจจุบันอยู่ในโปแลนด์) เข้าเป็นทหารม้าในปี 1911 เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ก็ย้ายไปหน่วยทหารอากาศและสอบผ่านเป็นนักบินในปี 1915
แมนเฟรดยิงเครื่องบินข้าศึกตกครั้งแรกในเดือนกันยายน 1916 ผลงานชิ้นสำคัญชิ้นแรกคือการยิงเครื่องบินของพันตรีฮอว์คเกอร์ (Hawker) นักบินอังกฤษที่ได้รับเหรียญกล้าหาญขั้นสูงสุด ตกในเดือนพฤศจิกายน 1916 เมื่อแมนเฟรดยิงเครื่องบินศัตรูตกครบ 16 ลำ ก็ได้รับเหรียญกล้าหาญขั้นสูงสุด เป็นผู้นำฝูงที่ 11 ทาสีเครื่องบินเป็นสีแดงเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวจนได้รับฉายาว่าบารอนแดง
แมนเฟรด ฟอน ริชโธเฟน เสียชีวิตในวันที่ 21 เมษายน 1918 เมื่ออายุ 25 ปี ในสนามรบที่ซอมม์ระหว่างการรบทางอากาศกับ ร้อยเอกรอย บราวน์ (Roy Brown) นักบินชาวแคนาดา โดยมีข้อกังขาว่าใครสมควรได้เครดิต นักบินหรือพลปืนภาคพื้นดิน รวมทั้งหมด ยิงเครื่องบินฝ่ายศัตรูตกอย่างเป็นทางการ 80 ลำ เป็นสถิติสูงสุดในสงครามโลกครั้งที่ 1
น้องชายของแมนเฟรด ร้อยโท โลธาร์ ฟอน ริชโธเฟน (Lothar Siegfried Freiherr von Richthofen) ก็เป็นเสืออากาศขึ้นชื่อ เกิดเมื่อ 27 กันยายน 1894 เดิมเป็นทหารม้า สมัครเข้าหน่วยทหารอากาศในฐานะลูกเรือในปี 1915 ได้เป็นนักบินในเดือนมีนาคม 1917 และเข้าร่วมในฝูงบินของพี่ชาย และเป็นหัวหน้าแทนเมื่อพี่ไม่อยู่
โลธาร์ได้รับเหรียญ Pour le Mérite ในเดือนพฤษภาคม 1917 เมื่อยิงเครื่องบินศัตรูตกครบ 24 ลำ โลธาร์ได้รับบาดเจ็บในการรบทางอากาศอย่างน้อย 3 ครั้ง ยิงเครื่องบินฝ่ายศัตรูตก 40 ลำ เป็นสถิติลำดับที่ 12 ของเยอรมัน และติดใน 30 ลำดับสูงสุดของสงครามโลกครั้งที่ 1 และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกหลังสงครามเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 1922 อายุ 27 ปี
จอมพล โวลแฟรม ฟอน ริชโธเฟน (Wolfram Karl Ludwig Moritz Hermann Freiherr von Richthofen) เกิดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 1895 ใกล้ชเตรเกา (ปัจจุบันอยู่ในโปแลนด์) และเป็นผู้รับมรดกของลุงในฐานะบุตรบุญธรรม
โวลแฟรมสมัครเข้าเป็นทหารม้าในปี 1913 เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ประจำที่แนวตะวันตก ก่อนย้ายไปโปแลนด์จนได้เป็นผู้บัญชาการกองร้อยทหารม้า และเข้าหน่วยทหารอากาศเมื่อปี 1917 เข้าร่วมรบในฝูงบินของแมนเฟรดเมื่อปี 1918 รวมยิงเครื่องบินศัตรูตก 8 ลำ ซึ่งอาจจะดูน้อยกว่ามาก แต่โวลแฟรมเริ่มบินช้ากว่าเช่นกัน
หลังสงคราม โวลแฟรมศึกษาด้านวิศวกรรมการบิน กลับเข้ากองทัพบกในปี 1922 เข้าร่วมกองทัพอากาศเยอรมันในปี 1933 มีผลงานในการจัดหาและพัฒนาเครื่องบินรบ ย้ายไปทำงานสนามในสงครามกลางเมืองสเปนจนได้เป็นเสนาธิการ พัฒนาแนวคิดและการดำเนินงานที่กลายเป็นมาตรฐานของกองทัพอากาศหลายเรื่อง
ในสงครามโลกครั้งที่สอง โวลแฟรมมีส่วนร่วมในการบุกโปแลนด์ สนับสนุนการบุกเบลเยียม เนเธอร์แลนด์ และฝรั่งเศส ตามด้วยอังกฤษ บอลข่าน โซเวียต และอิตาลี ได้ยศจอมพล Generalfeldmarschall เมื่อปี 1943 โวลแฟรมป่วยเป็นเนื้องอกในสมองและเสียชีวิตในวันที่ 12 กรกฎาคม 1945 เมื่ออายุ 49 ปี ที่ออสเตรีย
ขอธิบายเพิ่มว่าในชื่อของทั้งสามคนที่ลงท้ายด้วย Freiherr von Richthofen คำว่า Freiherr (frei คืออิสระ ส่วน herr สมัยนี้คือคำนำหน้าชื่อผู้ชายทั่วไป แต่สมัยก่อนเป็นคำยกย่องคล้ายท่านลอร์ด) เป็นตำแหน่งของผู้มีตระกูลทางบิดาในระบบเยอรมัน ที่ทายาทชายใช้กันทุกคน ทายาทหญิงจะใช้ Freiin และหญิงที่แต่งเข้าตระกูลก็ใช้ Freifrau แต่เวลาแปล Freiherr เป็นอังกฤษมักชอบใช้บรรดาศักดิ์บารอน ทั้งที่บารนเป็นบรรดาศักดิ์ขุนนางที่มีการสิบตำแหน่งโดยลูกชายคนโตในแต่ละรุ่น ไม่ได้ส่งต่อให้ทายาทชายทุกคนแบบนี้
ด้วยความสงสัยติดใจเรื่องความสัมพันธ์ที่แน่นอน เลยได้ลองค้นดูจากอินเตอร์เน็ตหลายแหล่ง เช่น geni WikiTree GEDBAS Geneanet (ถือว่าโชคดีที่เคยเรียนภาษาเยอรมันมาบ้าง สามารถช่วยเดาได้อย่างมีหลักมากขึ้น) รวบรวมออกมาแผนภาพด้านล่างที่ก็มีความแตกต่างในรายละเอียดของแหล่ง เช่นการสะกดชื่อ ตำแหน่งชื่อ หรือปี แต่ก็ไม่มากนัก หากมีคำแนะนำแก้ไขหรือข้อมูลเพิ่ม จะขอบคุณมากค่ะ
สรุปได้ว่าโวลแฟรมและแมนเฟรด/โลธาร์มีปู่ย่าของทวดเป็นคู่เดียวกัน หรือที่ในภาษาอังกฤษเรียกว่าลูกพี่ลูกน้องขั้นที่สี่ (fourth cousin) โดยบรรพบุรุษของโวลแฟรมเป็นพี่ของแมนเฟรด/โลธาร์ และอาจจะมีความเกี่ยวเนื่องอื่นด้วยค่ะ
[27/01/22, 19/06/22]
ที่มา
[1] Manfred von Richthofen. The Red Baron (Der Rote Kampfflieger). Pen & Sword Military Classics, 192 pages, 2005 (First Published in 1917, First Translated in 1918).
ความสัมพันธ์ญาติ
Comments
Post a Comment