มัมมี่กรีดร้อง - การทรมานหรือพิธีศพธรรมดา
ในวันที่ 21 กันยายน 2561 ได้มีผู้โพสรูปในเฟสบุ๊คกรุ๊ปโดยบอกว่าเป็นภาพมัมมี่ที่แสดงสีหน้ากรีดร้องเจ็บปวดโหยหวน มือเท้าถูกมัด ยังคงตรึงอยู่ในใจผู้ที่พบเห็น จึงได้มีการศึกษากันว่า เจ้าของมัมมี่ผู้นี้คือใครกันแน่? โดยผู้โพสให้เครดิตลิงก์ listverse.com แต่พอกดเข้าไปดูพบว่าเป็นหน้าแรกของเพจและไม่สามารถหาได้ว่าเอารูปมาจากบทความไหน มีผู้มาคอมเมนต์ว่าน่าจะมีการบูชายัญบ้าง ทรมานบ้าง ฝังทั้งเป็นบ้าง หรือเป็นศพแห้งธรรมดา และก็ยังมีที่บอกว่าน่าจะเป็นการจัดศพตามรูปแบบพิธีกรรมของอินคา
เมื่อเกิดความสงสัยก็ต้องลองหาข้อมูลเพิ่มเติม สรุปได้ว่ามัมมี่ที่เห็นเป็นของชาวพื้นเมืองเผ่า Chachapoyas ในเขตอเมซอน เผ่านี้ถูกอินคายึดครองและสูญหายไปหลังจากการบุกรุกของสเปน ถึงชนเผ่า Chachapoyas ไม่มีอักษรเป็นของตนเอง แต่การขุดค้นทางโบราณคดีก็ทำให้ทราบเกี่ยวกับวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ไม่น้อย โดยมัมมี่ที่ถูกพบในปี 1997 จาก Laguna de los Cóndores กว่าสองร้อยร่างอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Museo Leymebamba ในเขต Leymebamba ประเทศเปรู
เดิมชนเผ่า Chachapoyas จะเลือกสถานที่ฝังศพที่แห้งและเย็นซึ่งเหมาะสมกับการรักษาร่าง ภายหลังได้รับอิทธิพลจากอินคา มีการรักษาผิวหนัง ยัดฝ้ายใต้แก้มและในช่องทวารที่ศีรษะเพื่อรักษารูปร่างหน้า มีการนำอวัยวะภายในช่องท้องออกทางรูทวารหนักและยัดผ้าปิดด้ว ก่อนศพจะถูกมัดเพื่อรักษาท่าทางอีกครั้ง และห่อผ้าเพื่อทำให้เกิดสภาวะที่เหมาะสมกับการรักษาศพ
การอ้าของปากไม่ได้เกิดจากการที่ผู้ตายถูกทรมาน แต่มาจากการที่กล้ามเนื้อขากรรไกรของศพอ่อนตัวและเสื่อมสภาพหลังเกิดการแข็งทื่อหลังการตาย ทำให้ขากรรไกรตกลงและปากเปิดออก การทำศพสมัยโบราณจึงมักจะมีการใช้ที่มัดคางเพื่อไม่ให้เกิดการอ้าปากแบบนี้
สรุปได้ว่ามัมมี่ของชนพื้นเมืองเผ่า Chachapoyas นี้ ไม่ได้เกิดจากการบูชายัญหรือมีการทรมานแต่อย่างใด แต่เป็นการทำพิธีกรรมหลังการตายที่มีแนวคิดรักษาร่างของศพเท่านั้น
ที่มา
[1] The Mummies of the Laguna de los Cóndores - The Museo Leymebamba (Access 21 September 2018)
[2] Screaming Mummies! - Mark Rose, Archaeology (11 March 2009)
[3] The Chachapoyas Cloud Warriors of Ancient Peru - The Scribe (October 2007)
[4] Mummy's been the word for 500 years - Krista Eleftheriou, ABC News (22 September 2015)
เรื่องที่ไม่ได้เกิด
เมื่อเกิดความสงสัยก็ต้องลองหาข้อมูลเพิ่มเติม สรุปได้ว่ามัมมี่ที่เห็นเป็นของชาวพื้นเมืองเผ่า Chachapoyas ในเขตอเมซอน เผ่านี้ถูกอินคายึดครองและสูญหายไปหลังจากการบุกรุกของสเปน ถึงชนเผ่า Chachapoyas ไม่มีอักษรเป็นของตนเอง แต่การขุดค้นทางโบราณคดีก็ทำให้ทราบเกี่ยวกับวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ไม่น้อย โดยมัมมี่ที่ถูกพบในปี 1997 จาก Laguna de los Cóndores กว่าสองร้อยร่างอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Museo Leymebamba ในเขต Leymebamba ประเทศเปรู
เดิมชนเผ่า Chachapoyas จะเลือกสถานที่ฝังศพที่แห้งและเย็นซึ่งเหมาะสมกับการรักษาร่าง ภายหลังได้รับอิทธิพลจากอินคา มีการรักษาผิวหนัง ยัดฝ้ายใต้แก้มและในช่องทวารที่ศีรษะเพื่อรักษารูปร่างหน้า มีการนำอวัยวะภายในช่องท้องออกทางรูทวารหนักและยัดผ้าปิดด้ว ก่อนศพจะถูกมัดเพื่อรักษาท่าทางอีกครั้ง และห่อผ้าเพื่อทำให้เกิดสภาวะที่เหมาะสมกับการรักษาศพ
การอ้าของปากไม่ได้เกิดจากการที่ผู้ตายถูกทรมาน แต่มาจากการที่กล้ามเนื้อขากรรไกรของศพอ่อนตัวและเสื่อมสภาพหลังเกิดการแข็งทื่อหลังการตาย ทำให้ขากรรไกรตกลงและปากเปิดออก การทำศพสมัยโบราณจึงมักจะมีการใช้ที่มัดคางเพื่อไม่ให้เกิดการอ้าปากแบบนี้
สรุปได้ว่ามัมมี่ของชนพื้นเมืองเผ่า Chachapoyas นี้ ไม่ได้เกิดจากการบูชายัญหรือมีการทรมานแต่อย่างใด แต่เป็นการทำพิธีกรรมหลังการตายที่มีแนวคิดรักษาร่างของศพเท่านั้น
[21/09/18]
ที่มา
[1] The Mummies of the Laguna de los Cóndores - The Museo Leymebamba (Access 21 September 2018)
[2] Screaming Mummies! - Mark Rose, Archaeology (11 March 2009)
[3] The Chachapoyas Cloud Warriors of Ancient Peru - The Scribe (October 2007)
[4] Mummy's been the word for 500 years - Krista Eleftheriou, ABC News (22 September 2015)
เรื่องที่ไม่ได้เกิด
Comments
Post a Comment