Posts

Featured Post

หนังสือ: ร้านเช่า มือสอง และห้องสมุด

Image
เมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2566 มีโพสของเฟซบุ๊กสำนักพิมพ์หนึ่งว่า "ศัตรูของนักสะสมหนังสือคือนักยืม ศัตรูของสำนักพิมพ์คือนักเช่า" ซึ่งก็ถูกทัวร์ลงจนลบไปในเวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่ก็ทำให้ จขบ. ไปตั้งคำถามใน สมาคมป้ายยาหนังสือ เรื่องร้านเช่าที่ยังเหลืออยู่ และค้นอินเตอร์เน็ตเพิ่มเติม สรุปได้ร้านเช่า ห้องสมุด หรือโครงการที่มีหนังสือหรือการ์ตูนให้เช่าหรือยืมอ่านที่บ้านได้ในรูปเล่มและอีบุ๊ก โดยตัดตัวเลือกที่ให้อ่านในสถานที่เท่านั้นออก ตามด้วยร้านหนังสือมือสอง ข้อมูลในตารางสามารถเรียงลำดับได้โดยการกดที่หัวข้อด้านบน ซึ่งน่าจะเป็นที่สนใจของหลายคนที่ต้องการเข้าถึงสิ่งพิมพ์อย่างถูกกฏหมายในราคาที่ไม่แพง เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้ถูกยืนยัน จึงมีความผิดพลาด ไม่ครบถ้วน หรือไม่อัพเดท ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมแก้ไขก็ช่วยบอกด้วยนะคะ ทั้งนี้ จขบ. ได้เริ่มพยายามไปเยือนร้านต่างๆ อยู่ ^_^ ร้านเช่า ชื่อ เวลาเปิด ที่ตั้ง/เขตบริการ แผนที่ URL อื่นๆ update การ์ตูนขวัญ 07:30-21:30 กรุงเทพฯ, ซอยรามคำแหง 24 ลิงก์ เฟซบุ๊ก 0

ไปเที่ยวเกาหลี เลือกหน้ากากอนามัยด้วย

Image
ภาพจาก https://www.reuters.com จากสถานการณ์โควิดที่เริ่มคลี่คลายและมีการท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้น เกาหลีก็เป็นประเทศหนึ่งที่เป็นเป้าหมายไปเยือนของคนไทย เมื่อวันก่อน จขบ. ได้ข้อมูลที่น่าสนใจจากคนไทยที่อยู่เกาหลีมาหลายปี การระบาดของโควิดทำให้มีการบังคับการใส่หน้ากากอนามัยมาสองปีแล้ว บวกกับการระบาดเป็นระลอกที่ทำให้การใส่หน้ากากอนามัยกลายเป็นนิสัยประจำของหลายคนถึงจะอยู่ในบริเวณที่ไม่มีการบังคับใส่ก็ตาม ซึ่งก็รวมถึงในเกาหลีด้วย การที่คนเกาหลีมีความเนี๊ยบอย่างมากในการแต่งตัว และมีความเห็นว่าหน้ากากอนามัยสีเขียวและสีฟ้าเป็นของที่บุคลากรทางการแพทย์ใช้ในการทำงาน ทำให้คนเกาหลีส่วนใหญ่จะเลือกใช้หน้ากากสีอื่น โดยเฉพาะสีขาว สีดำ หรือสีที่เข้ากับเครื่องแต่งกาย สำหรับนักท่องเที่ยวคนไทยที่อยากได้อารมณ์ไปเที่ยวที่กลมกลืนกับชาวบ้านและไม่ตกแฟชั่นในเกาหลีใต้ จึงขอแนะนำให้เลือกหน้ากากที่จะเอาไปใช้ด้วยค่ะ แต่ถ้าจะไปเกาหนีเหนือ ในข่าวก็เห็นว่าใช้หน้ากากอนามัยสีเขียวกันเยอะนะคะ สัพเพเหระ

แชทกลุ่มผู้นำโลกของเซเลนสกี

Image
ครั้งแรกที่ จขบ. มีความจำต่อชื่อประธานาธิบดีเซเลนสกีแห่งยูเครน มาจากข่าวงาน 16th annual Yalta European Strategy Meeting (YES Ukraine 2019) ระหว่างวันที่ 12-14 กันยายน 2562 เซเลนสกีที่เพิ่งรับตำแหน่งประธานาธิบดีต่อจากโปโรเชนโกไม่นาน ได้นำเสนอ แชทเก๊ของกลุ่มผู้นำโลกที่ฮากระจาย เมื่อมองย้อนหลังรัสเซียบุกยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ก็ดูเหมือนว่าจะเหมือนเป็นคำทำนายที่ประชดประชันไม่น้อย แต่ในขณะเดียวกัน ก็เห็นถึงความสามารถในการสื่อสารและดึงดูดความสนใจขั้นเทพ ที่ได้ใช้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยตั้งแต่เริ่มการรบ จขบ. อยากจะแปลเนื้อความให้ครบ แต่กลัวเรื่องลิขสิทธิ์ เลยของยกช่วงที่เกี่ยวข้องมาจำนวนหนึ่งเท่านั้น กลุ่มผู้นำโลก [โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เข้ากลุ่ม] ⋮ ยูเครน: ใครคือแอดมินของกลุ่ม รัสเซีย: ฉันเอง! จีน: ฉันเอง! สหรัฐอเมริกา: ฝันไปเถอะ! [แอดมินลบรัสเซียและจีนออกจากกลุ่ม] ⋮ รัสเซีย: เราต้องการหารือเรื่องการผนวกดินแดน ยูเครน: เชิญพูด! รัสเซีย: พวกคุณคิดอย่างไรถ้าเราจะผนวกเกาะอังกฤษมาครึ่งหนึ่ง? ฝรั่งเศส: เราจะใช้มาตรการคว่ำบาตร เยอรมนี: เราจะใช้มาตรการคว่ำบาตร สหรัฐอเ

สงครามรัสเซีย-ยูเครน: ทหารอาสาหรือทหารรับจ้าง

Image
เนื่องจากการที่รัสเซียบุกยูเครนในปี 2022 มีการอ้างถึงทหารอาสา (Volunteers) และทหารรับจ้าง (Mercenaries) ที่แต่ละฝ่ายพูดกันไปคนละทาง โดยเฉพาะรัสเซียที่กล่าวว่าชาวต่างชาติที่รบให้ยูเครนเป็นทหารรับจ้าง ทำให้ จขบ. เกิดความสงสัยจนไปอ่านอนุสัญญาเจนีวาในฐานะที่เป็นหลักฐานปฐมภูมิ ในฐานะชาวบ้านธรรมดาที่ไม่ได้มีพื้นฐานทางกฏหมาย ก็สรุปตามออกมาได้ตามอนุสัญญาเจนีวานี้ โดยไม่ได้พิจารณาถึงกฏหมายที่แต่ละประเทศซึ่งอาจแตกต่างหรือมีรายละเอียดต่างกัน ยังไงถ้ามีความผิดพลาดหรือข้อมูลเพิ่มเติม ก็ขอคำแนะนำด้วยค่ะ ตั้งแต่สมัยโบราณ การมีกองทัพประจำการขนาดใหญ่เป็นเรื่องยากเพราะต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก ที่ต้องเป็นประเทศขนาดใหญ่ที่ร่ำรวยจึงจะทำได้ ส่วนใหญ่มักเป็นกององครักษ์ขนาดไม่ใหญ่นัก เมื่อเกิดสงครามก็มักเกณฑ์ชาวบ้านเป็นไพร่พล มีการจ้างทหารรับจ้างเป็นกำลังเสริมหรือเป็นกองกำลังเฉพาะด้าน และมีทหารอาสาที่เข้าร่วมโดยไม่ได้เป็นทหารรับจ้างด้วย ถ้านึกถึงประเทศไทยในอดีต สยามก็มีหทารรักษาพระองค์จำนวนหนึ่ง มีการเกณฑ์ไพร่หลวงหรือไพร่สมเมื่อเกิดศึกสงคราม และยังมีทหารอาสาต่างชาติที่เป็นกองประจำการหรือเฉพาะกิจ คนชาติเดียว

ความสัมพันธ์ญาติ: เสืออากาศตระกูลริชโธเฟ่นในสงครามโลกครั้งที่ 1

Image
ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง มีนักบินชาวเยอรมันจากตระกูลริชโธเฟนที่ได้เป็นเสืออากาศหรือเอส (สามารถยิงเครื่องบินศัตรูตกได้เกินห้าลำ) ถึงสามคน ในภาพยนตร์ ' เดอะ เรด บารอน สมรภูมิรบ รัก วีรบุรุษ ' เมื่อปี 2008 ก็บอกเพียงว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ทำให้ จขบ. สงสัยจนต้องไปค้นคว้าหาข้อมูลเอง แมนเฟรด - โลธาร์ - โวลแฟรม ร้อยเอก แมนเฟรด ฟอน ริชโธเฟน (Manfred Albrecht Freiherr von Richthofen) เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 1892 ที่เบรสเลา (ปัจจุบันอยู่ในโปแลนด์) เข้าเป็นทหารม้าในปี 1911 เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ก็ย้ายไปหน่วยทหารอากาศและสอบผ่านเป็นนักบินในปี 1915 แมนเฟรดยิงเครื่องบินข้าศึกตกครั้งแรกในเดือนกันยายน 1916 ผลงานชิ้นสำคัญชิ้นแรกคือการยิงเครื่องบินของพันตรีฮอว์คเกอร์ (Hawker) นักบินอังกฤษที่ได้รับเหรียญกล้าหาญขั้นสูงสุด ตกในเดือนพฤศจิกายน 1916 เมื่อแมนเฟรดยิงเครื่องบินศัตรูตกครบ 16 ลำ ก็ได้รับเหรียญกล้าหาญขั้นสูงสุด เป็นผู้นำฝูงที่ 11 ทาสีเครื่องบินเป็นสีแดงเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวจนได้รับฉายาว่าบารอนแดง แมนเฟรด ฟอน ริชโธเฟน เสียชีวิตในวันที่ 21 เมษายน 1918 เมื่ออายุ 25 ปี ใน

ความสัมพันธ์ญาติ: เพอร์รี่และแมคอาเธอร์ ผู้เปลี่ยนญี่ปุ่น

Image
ที่มาของเรื่องคือ จขบ. ได้อ่านหนังสือ ' The Fall of Japan ' แล้วเกิดความสงสัยเลยค้นอินเตอร์เน็ตเพิ่มเติม ลิงก์ก็ไปโน่นนี่จนเจอบทความภาษาไทยแปลกๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างทหารอเมริกันสองคนที่มีผลกระทบอย่างสูงต่อประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นคือเพอร์รี่และแมคอาเธอร์ เลยทำให้เขียนบทความนี้ออกมา แมทธิว คัลเบรธ เพอร์รี่ (Matthew Calbraith Perry, 1794-1858) เป็นทหารเรือยศพลเรือจัตวา (Commodore) เกิดที่รัฐโรดไอแลนด์ในครอบครัวทหารเรือ โดยพ่อเป็นนาวาเอก ส่วนพี่ชาย พลเรือจัตวา โอลิเวอร์ ฮาซาร์ด เพอร์รี่ (Oliver Hazard Perry, 1785-1819) ที่เป็นผู้บัญชาการรบกับอังกฤษที่ทะเลสาบอิรีเมื่อปี 1813 เพอร์รี่มีผลงานเด่นในการพัฒนาเรือรบที่ใช้เครื่องจักรไอน้ำ มีส่วนบัญชาการรบในสงครามกับเม็กซิโกเมื่อปี 1845 และเป็นผู้นำกองเรือดำเข้าบังคับเปิดประเทศญี่ปุ่นระหว่างปี 1852-1854 ทำให้มีการลงนามในสนธิสัญญาคานางาวะเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 1854 เป็นการยุติการปิดประเทศซึ่งยาวนานกว่าสองร้อยปีของรัฐบาลโชกุนโตกุงาวะ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ที่นำไปสู่การก่อตั้งจักรวรรดิญี่ปุ่น อีกเรื่องที่น่าส

มัมมี่กรีดร้อง - การทรมานหรือพิธีศพธรรมดา

Image
ในวันที่ 21 กันยายน 2561 ได้มีผู้โพสรูปในเฟสบุ๊คกรุ๊ปโดยบอกว่าเป็นภาพมัมมี่ที่แสดงสีหน้ากรีดร้องเจ็บปวดโหยหวน มือเท้าถูกมัด ยังคงตรึงอยู่ในใจผู้ที่พบเห็น จึงได้มีการศึกษากันว่า เจ้าของมัมมี่ผู้นี้คือใครกันแน่? โดยผู้โพสให้เครดิตลิงก์ listverse.com แต่พอกดเข้าไปดูพบว่าเป็นหน้าแรกของเพจและไม่สามารถหาได้ว่าเอารูปมาจากบทความไหน มีผู้มาคอมเมนต์ว่าน่าจะมีการบูชายัญบ้าง ทรมานบ้าง ฝังทั้งเป็นบ้าง หรือเป็นศพแห้งธรรมดา และก็ยังมีที่บอกว่าน่าจะเป็นการจัดศพตามรูปแบบพิธีกรรมของอินคา เมื่อเกิดความสงสัยก็ต้องลองหาข้อมูลเพิ่มเติม สรุปได้ว่ามัมมี่ที่เห็นเป็นของชาวพื้นเมืองเผ่า Chachapoyas ในเขตอเมซอน เผ่านี้ถูกอินคายึดครองและสูญหายไปหลังจากการบุกรุกของสเปน ถึงชนเผ่า Chachapoyas ไม่มีอักษรเป็นของตนเอง แต่การขุดค้นทางโบราณคดีก็ทำให้ทราบเกี่ยวกับวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ไม่น้อย โดยมัมมี่ที่ถูกพบในปี 1997 จาก Laguna de los Cóndores กว่าสองร้อยร่างอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Museo Leymebamba ในเขต Leymebamba ประเทศเปรู เดิมชนเผ่า Chachapoyas จะเลือกสถานที่ฝังศพที่แห้งและเย็นซึ่งเหมาะสมกับการรักษาร่าง ภายหลังได้รั

H. G. Wells - สยามไม่เคยให้อะไรแก่โลก?

Image
เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2556 มีกระทู้ใน Pantip (tag วิทยาศาสตร์) ที่ตั้งไว้ว่า คิดยังไง ที่ H.G. Wells กล่าวว่า สยามไม่เคยให้อะไรแก่โลกเลย มีแต่เอาประโยชน์จากโลก โดยผู้เขียนกระทู้ได้เอาข้อความนี้มาจากบล็อก ที่ผู้เขียนใช้นามแฝงคนถางทาง คนไทยไม่เคยให้อะไรแก่โลก (ตอนที่ ๑) ที่เขียนเมื่อ 12 ธันวาคม 2555 ซึ่งบอกว่า หลายปีก่อนพี่ชายสุดที่รักให้หนังสือมาอ่านเล่มหนึ่ง ถ้าจำไม่ผิดชื่อ "พระเจ้ากรุงสยาม" แต่งโดย ส.ธรรมยศ ผมอ่านด้วยความสนุกมาก มีตอนหนึ่ง ส.ฯ เล่าว่า HG. Wells (นักประพันธ์ชื่อดังของอังกฤษ) เคยเขียนไว้ว่า "สยามไม่เคยให้อะไรแก่โลกเลย มีแต่เอาประโยชน์จากโลก" กับอีกแหล่งที่กล่าวเลยโดยไม่ได้อ้างใครคือบทความ ' ประชาธิปไตย+ทุนนิยม = หายนะ ' โดย ทวิช จิตรสมบูรณ์ ที่เว็บผู้จัดการ ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2553 ที่ขอยกข้อความมา H.G. Wells นักประพันธ์ชื่อดังชาวอังกฤษผู้ล่วงลับเคยกล่าวอย่างเหยียดหยามว่า "คนไทยไม่เคยให้อะไรกับโลกนี้เลย" คราวนี้น่าจะลองลบคำสบประมาทนี้ดูสักที ถ้าทำได้สำเร็จจะเป็นบุญอีกด้วยที่ช่วยโลกให้รอดหายนะ และเมื่อค้นเพิ่มเติมก็ยัง